เชื้อโรคจากแอร์ - โดย รศ.นพ. สมหวัง ด่านชัยวิจิตร
ภาควิชาอายุรศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช
มหาวิทยาลัยมหิดล ....
สภาพอากาศในประเทศไทยค่อนข้างร้อน ปัจจุบันการใช้เครื่องปรับอากาศ จึงเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายรวมไปถึงในรถยนต์ด้วย สำหรับในห้องปรับอากาศที่มิดชิด การถ่ายเทอากาศไม่ดีเท่ากับห้องที่เปิดหน้าต่าง ความรู้เรื่องโรคต่างๆที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ห้องปรับอากาศ และ วิธีการป้องกันที่ควรจะทำเพื่อให้การใช้ห้องปรับอากาศเป็นไปอย่างมีความสุขจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องรู้...........................................
ถาม ในห้องที่ติดเครื่องปรับอากาศเชื้อโรคติดต่อกันได้อย่างไรบ้าง ?
ตอบ ถ้าเป็นห้องปรับอากาศ มักจะเย็น และ แห้ง จึงไม่น่าจะมีเชื้อโรคที่เป็นอันตรายต่อคนที่อยู่มากนัก นอกจากว่าที่ห้องแอร์นั้นทำไว้ไม่ดี ที่เครื่องปรับอากาศมีน้ำหยดทำให้ชื้น และ อับ จะเห็นว่ามีคราบเชื้อราเกิดขึ้น พร้อมกับเชื้อแบคทีเรียจากเชื้อโรคต่างๆมากมาย ซึ่งอาจไม่เกิดอันตรายต่อคนที่มีสภาพร่างกายแข็งแรงปกติ แต่ถ้าหากผู้นั้นมีภูมิต้านทานลดลงหรือจากการกินยาต่างๆ หากมีโอกาศรับเชื้อนี้เรื่อยๆ บ่อยๆเข้าก็อาจทำให้เกิดโรคได้ กรณีห้องแอร์นั้นใช้ส่วนตัวคนเดียวก็คงไม่มีปัญหา แต่ถ้าเป็นห้องปรับอากาศรวมๆ เช่น โรงภาพยนต์ ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล ฯลฯ ที่มีคนทำงานรวม มีผู้คนมาใช้บริการมาก มาอยู่รวมกัน อาจเป็นแหล่งของเชื้อโรคได้ เพราะบางคนอาจเป็นโรคติดเชื้ออยู่เช่นไข้หวัดต่างๆ มีการไอ จาม ..เชื้อโรคก็จะแพร่ไปทางน้ำมูก น้ำลายที่กระเด็นไปเข้าสู่คนอื่นได้ง่าย
ถาม เชื้อโรคในห้องปรับอากาศที่สามารถแพร่กระจายจนเป็นอันตรายกับคนภายในห้องมีโรคอะไรบ้าง ?
ตอบ โดยทั่วๆไปคนที่ทำงานในห้องแอร์ทุกแห่งมักจะเป็นหวัดกันมากกว่าคนที่ทำงานนอกห้องแอร์ เพราะห้องแอร์ปิดมิดชิด คนที่อยู่ในนั้นมีโอกาศสูดดมเชื้อต่างๆในห้องได้ และ การเข้าออกจากห้องแอร์บ่อยๆ สลับกันไป ร่างกายต้องปรับตัวร้อน-หนาว ไม่ทัน หากร่างกายอ่อนแอเมื่อใด ก็เกิดรับเชื้อโรคได้ง่าย เพราะฉนั้นคนที่อยู่ห้องแอร์จึงมักเป็นไข้หวัดมากกว่าคนทั่วไปนอกห้องแอร์ โรคที่พบบ่อยคือโรคไข้หวัดใหญ่ที่มีเชื้อมาจากไวรัส แพร่โดยทางน้ำมูก น้ำลายจากคนที่เป็นหวัด ไอ จาม อีกโรคหนึ่งที่เป็นกันบ่อยคือ โรคหัดเยอรมัน คนป่วยแพร่เชื้อได้จากน้ำมูก น้ำลาย ก่อนที่จะมีผื่นขึ้น เวลาไอจาม ก็แพร่เชื้อออกมาแล้ว ทำให้รับเชื้อเข้าไปโดยไม่รู้ตัว ทำให้ป้องกันได้ยาก กว่าจะรู้ว่าเป็นหัดนี้ก็ใช้เวลาหลายสัปดาห์ ทำให้ป้องกันได้ยาก อย่างเช่นการเป็นโรคอีสุกอีใส หรือ งูสวัด ท่านก็คิดว่าเป็นแค่ตุ่มน้ำเหลือง เป็นต้น
ถาม ในห้องปรับอากาศ ถ้าไม่ได้ติดเครื่องระบายอากาศจะเป็นอันตรายหรือไม่ ?
ตอบ ถ้าหากว่าเราไม่ติดเครื่องระบายอากาศ อากาศก็จะหมุนเวียนอยู่ในห้อง ถ้าเป็นห้องใหญ่ นั่งคนเดียวมีอากาศเพียงพอ ก็คงไม่เป็นอันตรายใดๆมาก ถ้าห้องนั้นไม่ปรับปรุงติดเครื่องระบายอากาศ อากาศไม่ถ่ายเท ถ้ามีเชื้อโรค หรือ แก๊สอันตราย ก็จะมีอันตรายได้จากการสะสมเชื้อโรคนั้นๆ คนในห้องก็ได้รับเชื้อนั้นไปโดยปริยาย
ถาม เชื้อราในที่ชื้น เกิดจากอะไร และ จะมีวิธีป้องกันไม่ให้มีเชื้อรานั้นได้อย่างไร ? มีอันตรายไหม ?
ตอบ พวกเชื้อโรคต่างๆ มักจะขึ้นได้ต่อเมื่อมีความชื้น ทั้งที่มองเห็น และ ไม่เห็น ที่ชื้นมากๆ เช่นผนังที่มีท่อน้ำเดินผ่าน มีน้ำซึม รั่วในบริเวณใกล้ๆอ่างล้างมือ ห้องน้ำ และ บางพื้นที่ที่มีน้ำกระเซ้นไปก็ทำให้ชื้น แฉะ มีเชื้อราได้ เชื้อพวกนี้ปกติส่วนใหญ่ไม่ก่อให้เกิดโรคในคนธรรมดา แต่เมื่อร่างกายอ่อนแอเมื่อใด เช่นเป็นโรคอยู่ หรือ ขณะได้รับยากดภูมิคุ้มกันอยู่ เชื้อราพวกนี้อาจทำให้เกิดโรคที่รุนแรงได้ อาจถึงตายได้ ในคนที่เป็นโรคหอบหืด เชื้อพวกนี้จะกระตุ้นให้มีอาการหอบหืดมากขึ้น การกำจัด ขจัดความชื้นโดยทำให้แห้ง และ ปรับปรุงพื้นที่นั้นๆให้แห้งด้วยวัสดุต่างๆจำเป็นต้องทำ นอกเหนือจากต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย และ สร้างอากาศให้แห้ง โดยอาจใช้ เครื่องสร้างอากาศสะอาดที่มีขีดความสามารถฆ่าเชื้อโรคได้ดี แต่คนไม่เป็นอะไร เข้าช่วยได้ ความชื้น ความมืด ความเย็น เป็นที่มาของเชื้อโรค เชื้อรา การป้องกันย่อมดีกว่าการแก้ไข............
ถาม เราจะป้องกันการติดเชื้อในห้องปรับอากาศได้อย่างไร ?
ตอบ การที่เราพยายามจะลดการติดเชื้อโรคในห้องปรับอากาศนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัย 2 อย่าง คือ 1. ต้องไม่มีคนแพร่เชื้อ ผู้มีเชื้อต่างๆควรหลีกเลี่ยงไม่เข้าไปอยู่ในห้องนั้น ซึ่งป้องกัยยาก หากเป็นห้องรวม ห้องสาธารณะ เช่น OPD - คนไข้นอก ของโรงพยาบาลฯ ปัจจัยที 2. คนที่อยู่ห้องปรับอากาศควรทำให้ร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอ โดยสภาพทั่วไปคนที่อยู่ห้องแอร์มักกินดีอยู่ดี ใช้ความคิดและสมองมากจึงเครียดแล้วก็เพลีย กลับบ้านก็นอน หน้าตาผิวพรรณดี อ้วนท้วน แต่ไม่แข็งแรงไม่ค่อยออกกำลังกาย ไม่ชอบทำอะไรเลย คนที่มีพฤติกรรมเช่นนี้มีโอกาศติดโรคได้ง่าย...จึงแนะนำว่าควรออกกำลังกายให้พอเพียงเพื่อเสริมร่างกายให้แข็งแรงขึ้น ประการต่อไปคือ ต้องปรับสภาพห้องนั้นๆให้มีเชื้อโรคน้อยที่สุด เช่นให้มีแสงสว่างเพียงพอ มีการระบายอากาศที่ดี หากมีโอโซนฆ่าเชื้อโรคติดตั้งไว้ฆ่าเชื้อโรคได้จะดีมาก (ตามผลการวิจัยของม.มหิดล และ ม.หัวเฉียว ) เมื่อปิดแอร์แล้วควรเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทได้ง่าย ควรขจัดความชื้น หรือ แหล่งที่ก่อให้เกิดความชื้นต้องแก้ไขให้หมดไป จึงจะช่วยให้โอกาศที่จะติดเชื้อในห้องแอร์ลดน้อยลงได้ โดยสรุป คนที่อยู่ในห้องปรับอากาศมีโอกาศเสี่ยงกับการติดเชื้อมากกว่าคนที่ไม่อยู่.....
ถาม นอกจากเชื้อโรคต่างๆแล้ว อุปกรณ์ที่ติดตั้งในห้องแอร์เช่นเครื่องถ่ายเอกสาร หรือ อุปกรณ์ที่มีน้ำยาเคมีที่มีพิษ สามารถก่อให้เกิดอาการของโรคบางชนิดขึ้นได้ จะมีผลต่อสุขภาพมากน้อยแค่ไหน ?
ตอบ ถ้าหากว่ามีสารเคมีที่อาจจะเป็นพิษได้เช่นเครื่องถ่ายเอกสารที่มีควัน มีกลิ่นออกมาจากการระเหยของสารเคมีที่มีพิษ สามารถทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ นอกจากนี้ควันบุหรี่ก็เช่นเดียวกันคนที่ได้รับควันนานๆ ก็เสี่ยงต่อโรคเหมือนคนสูบเช่นกัน สารจากเครื่องถ่ายเอกสารจะทำให้เกิดอาการของโรคทางเดินหายใจ จึงควรติดตั้งไว้ในที่ที่มีการระบายอากาศออกไปได้เป็นการป้องกัน และ ลดพิษในอากาศลงได้.......
ขอขอบพระคุณแหล่งข้อมูล www.wisetair.com