|
อนุภาคสุดฮิตในยุคนาโน บูม!!!
สงกรานต์ เทศกาลไทยที่เป็นโอกาสให้สมาชิกหลายครอบครัวอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน ในช่วงเวลาก้าวเข้าสู่ปีใหม่ในช่วงเวลาที่อากาศร้อนจัดสุดๆ นี้ การสาดน้ำกัน กลายเป็นสีสันที่ขาดไม่ได้ แต่อนาคตข้างหน้าของ สงกรานต์ จะเป็นอย่างไร เมื่อถึงยุคที่ชีวิตประจำวันล้วนรายล้อมไปด้วยนานาผลิตภัณฑ์อันเป็นผลผลิตจากนาโนเทคโนโลยี เสื้อนาโนสาดเท่าไหร่ก็ไม่เปียก ออกไปเล่นสาดน้ำกันใน ยุคนาโน ไม่แน่ว่าอาจจะมีสารพัดนวัตกรรมที่สนองความต้องการทั้งคนที่อยากสนุกและไม่อยากตัวเปียก อาจจะมีครีมที่ทาตัวแล้วทำให้ไม่เปียกน้ำ หรืออาจจะเป็นเสื้อผ้าที่ไม่เพียงแค่กันน้ำได้แต่ช่วยทำให้น้ำระเหยไปได้อย่างรวดเร็ว สำหรับเสื้อผ้ากันน้ำนั้นก็มีให้เห็นอยู่บ้างในปัจจุบัน ขณะเดียวกันก็มีหลายองค์กรที่นำไปผสานกับเสื้อผ้าซึ่งผลิตจากเส้นใยที่ผสมอนุภาคขนาดเล็กๆ ซึ่งเรียกกันติดปากว่า เสื้อนาโน สำหรับเสื้อนาโนตอนนี้ไทยเราก็ผลิตเองได้แล้วมีทั้งที่กันน้ำได้และไม่ได้ อย่างเมื่อต้นปีทาง บริษัท แกรนด์สปอร์ต กรุ๊ป จำกัดก็ร่วมกับศูนย์นาโนเทคโนโลยี(นาโนเทค) นำวิทยาการด้านนาโนเทคโนโลยีมาปรับปรุงเสื้อกีฬาให้มีคุณสมบัติกันน้ำ กันเปื้อนและต้านเชื้อโรคได้ โดยการผสมอนุภาค นาโนซิลเวอร์ (อนุภาคสุดฮิตในยุคนาโนบูม) กับเส้นใย โดยอนุภาคดังกล่าวมีสมบัติกำจัดเชื้อแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุของกลิ่นไม่พึ่งประสงค์จากการสมใส่เสื้อผ้า นับว่าเป็นครั้งแรกที่มีการเปิดตลาดเสื้อนาโนฝีมือไทยในเมืองไทย ขณะที่ก่อนหน้านั้นทางสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ(สนช.) ก็ร่วมกับทางสถาบันวิจัยโลหะและวัสดุ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และบริษัท ยูไนเต็ด เท็กไทล์ จำกัด เปิดตัวเสื้อกีฬานาโนที่เส้นใยก็ผสมอนุภาคนาโนซิลเวอร์เช่นกัน แต่ต้านได้เพียงเชื้อแบคทีเรียไม่กันน้ำเพราะไม่ได้ผสมสารกันน้ำเหมือนกันเสื้อของ แกรนด์สปอร์ต แต่อย่างน้อยสงกรานต์ในยุคนาโนเราก็กังวลกับกลิ่นอับของเสื้อผ้าล่ะ นอกจากนี้ในช่วงสงกรานต์เสื้อผ้าสีสันแสบทรวงก็สะท้อนความร้อนแรงของแสงแดดให้หลายคนกระชุมกระชวย แต่เสื้อที่พิมพ์สีสันลงไปตรงๆ อาจจะไม่เร้าใจเท่ากับเสื้อผ้าที่เปลี่ยนไปตามมุมสะท้อนของแสงอย่าง ปรากฏการณ์โฟโตนิกส์ (Photonics) ซึ่งปีกของผีเสื้อ(ต้องเป็นพันธุ์จากเมืองนอกนะจ้ะ) จะเปลี่ยนได้หลายสีตามมุมสะท้อนของแสง ทั้งนี้เพราะมีผลึกขนาดเล็กๆ ที่ช่วยหักเหแสงให้สะท้อนออกเป็นสีต่างๆ ซึ่งอาจจะจุดประกายความคิดอันบรรเจิดให้กับนักออกแบบเสื้อผ้าได้บ้าง แต่ตอนนี้ก็มีความพยายามที่จะผลิตรถยนต์ที่เปลี่ยนสีโดยอาศัยหลักการนี้แล้ว ไม่ทราบจะถูกใจใครบ้างหรือเปล่า แว่นตาทำความสะอาดตัวเอง เปียกน้ำเท่าไหร่ก็ไม่ต้องเช็ด สำหรับคุณๆ ที่สวมแว่นตาทั้งสายตาสั้น สายตายาวและแว่นกันแดดก็คงจะพอทราบว่าความสนุกที่มาพร้อมลำบากเมื่อต้องคอยเช็ดทำความสะอาดแว่นบ่อยๆ และอาจเป็นจังหวะที่ทำให้พลาดท่าถูกเล็งปืนฉีดน้ำก็เป็นได้ เอาล่ะ! นาโนเทคโนโลยีอาจจะช่วยให้เราสนุกสนานขึ้นโดยไม่ต้องกังวลกับ แว่นตาทำความสะอาดตัวเอง ซึ่งเป็นไปได้ว่าเราอาจประยุกต์ใช้หลักการเดียวกับกระจกทำความสะอาดตัวเองซึ่งก็มีให้เห็นแล้ว หลักการของกระจกทำความสะอาดตัวเองคือการเคลือบฟิล์มบาง 2 ชั้น โดยโมเลกุลของฟิล์มชั้นแรกจะมีปลายข้างหนึ่งที่ยึดกระจกอย่างเหนียวแน่นและปลายโมเลกุลอีกด้านเป็นหมู่ฟังก์ชันที่ชอบน้ำ เมื่อน้ำมาสัมผัสผิวกระจกจะแผ่กระจายไม่เกาะเป็นหยดน้ำ ทำให้ระเหยเร็วขึ้น ขณะที่ฟิล์มอีกชั้นจะดูดกลืนรังสียูวีแล้วทำให้โมเลกุลของสิ่งสกปรกที่มาเกาะแตกตัวเป็นโมเลกุลที่เล็กลงและหลุดจากกระจก ส่วนจะประยุกต์ใช้กับแว่นตาได้หรือไม่ วิทยาศาสตร์มีคำตอบ ครีมกันแดดนาโน ร้อนแค่ไหนก็ไม่หวั่น ขณะเดียวกันในเทศกาลสงกรานต์หลายคนอาจจะสนุกกันเพลินกับการสาดน้ำ แต่เมื่อจบเทศกาลสิ่งที่คงไว้คือใบหน้าที่เกรียมแดด (ทั้งที่ทาครีมกันแดดหลายชั้นแล้วนะ!) เมื่อถึงเวลานั้นจริงๆ ครีมกันแดดที่ผสานนาโนเทคโนโลยีอาจจะช่วยได้ เราอาจมีครีมกันแดดในฝันที่สะท้อนรังสียูวีได้ 100 เปอร์เซ็นต์นานติดต่อกัน 8 ชั่วโมงหรือตลอดช่วงเวลาทำการของพระอาทิตย์ก็เป็นได้ อย่างน้อยตอนนี้บริษัทเครื่องสำอางหลายแห่งก็ทำให้ใบหน้าของสาวๆ ไม่ขาววอกเพราะครีมกันแดดได้แล้ว ด้วยการผสมอนุภาคของสังกะสีออกไซด์(Zinc oxide) ซึ่งปกติจะทำให้หน้าดูขาววอก แต่เมื่อใช้นาโนเทคโนดลยีทำให้มีขนาดอนุภาคเล็กลงแล้วก็แก้ปัญหาหนักใจของสาวๆ ลงได้ อีกทั้งยังคงสะท้อนรังสียูวีทั้ง UVA และ UVB ได้ ส่วนครีมกันแดดในฝันที่กล่าวไปก่อนนั้นคงต้องรอนักวิจัยเขาพัฒนากันต่อไป สเปรย์นาโนฉีดตรงไหนน้ำก็ไปไม่ถึง หากเสื้อผ้าตัวเก่งที่ใส่ไปเล่นน้ำสงกรานต์ไม่ใช่เสื้อผ้านาโนแล้วละก็อย่าเพิ่งหมดหวังในชีวิต เพราะเป็นไปได้ว่าจะมีผลิตภัณฑ์ชนิดสเปรย์ที่ฉีดแล้วช่วยกันน้ำให้กับวัสดุที่ฉีดได้(...เหมือนโดราเอมอนเข้าไปทุกทีแล้วใช่ไหม...) แต่ในโลกของนาโนเทคโนโลยีอะไรก็ดูน่าจะเป็นไปได้และไม่ได้เป็นความเพ้อฝันซะทีเดียว เพราะนักเทคโนโลยีได้พัฒนาสเปรย์ซึ่งกระจายตัวเป็นแผ่นพลาสติกบางๆ เมื่อได้รับแสงยูวีได้แล้ว อีกทั้งยังไม่ใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมด้วย จึงขึ้นอยู่กับว่าเราจะปรับปรุงสเปรย์ดังกล่าวให้ใช้กับวัสดุอะไรได้บ้าง น้ำเสียก็สะอาดได้ด้วยนาโนเมมเบรน อีกทั้งเป็นไปได้ว่าอนาคตเราอาจต้องสาดน้ำกันด้วยน้ำที่ผ่านกระบวนการบำบัดเพราะอนาคตน้ำสะอาดอาจเหลืออยู่น้อยเต็มที โดยอาจใช้เยื่อสังเคราะห์ชนิด Nano-Clay membrane ซึ่งใช้สารประเภทอลูมินาและซิลิกาเพื่อบำบัดน้ำก็เป็นได้ สำหรับเยื่อสังเคราะห์ดังกล่าวศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) ได้ให้ทุนมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีเพื่อวิจัยและพัฒนา ซึ่งเราก็คงต้องรอลุ้นกันว่าจะได้ใช้กันเมื่อไร จอบางอนุภาคอินทรีย์ ฉายภาพเทพีสงกรานต์ การประกวดเทพีสงกรานต์ซึ่งเป็นคู่แข่งคนละงานกับนางนพมาศก็เป็นอีกกิจกรรมที่อยู่คู่กับเทศกาลสงกรานต์ เมื่อเทคโนโลยีก้าวไปไกลมากเราอาจจะตั้งจอซึ่งผลิตจากไดโอดเรืองแสงที่มีชั้นสารเป็นแผ่นฟิล์มบางขนาดนาโนของสารอินทรีย์หรือที่เรียกกันว่า โอ-แอลอีดี (OLEDs) ประชันความงามของสาวๆ ทั่วประเทศกันกลางสนามหลวง ศาลากลางจังหวัดหรืออาจจะเป็นถนนข้าวสารที่ขึ้นชื่อเรื่องความสนุกสนานในการเล่นสงกรานต์ก็เป็นได้ สำหรับโอ-แอลอีดีนั้นเป็นไอโอดเรืองแสงที่ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง เนื่องจากสามารถนำไปผลิตจอแสดงภาพที่บาง เบาและราคาถูกๆได้ ทั้งนี้โอแอลอีดีก็ถูกประยุกต์งานบ้างแล้ว ทั้งเป็นหน้าจอมือถือหรือจอแสดงภาพของกล้องดิจิตอล โดย โกดัก (Kodak) ยักษ์ใหญ่แห่งวงการฟิล์มที่ผันตัวเองตามกระแสกล้องดิจิตอลก็เป็นเจ้าแรกที่ใช้ฟิล์มบางชนิดนี้กับกล้องดิจิตอล สำหรับประเทศไทยก็มีความพยายามที่จะวิ่งตามเทคโนโลยีนี้ซึ่งก็มีการวิจัยเพื่อพัฒนาฟิล์มบางดังกล่าวให้เปล่งแสงสีแดง สีเขียวและสีน้ำเงินซึ่งเป็นแม่สีหลักที่ผสมให้ได้สีอื่นๆ แล้วคุณล่ะ คิดว่าสงกรานต์ในยุคที่เต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์จาก นาโนเทคโนโลยี จะเป็นอย่างไร
| | |
 |
ที่มา :  |
 | | |
|